ปฎิทิน

16 กันยายน 2553

ความรัก กับ ความแค้น อยู่ใกล้กันนิดเดียว


ความรัก กับ ความแค้น

สองสิ่งนี้ มันไม่เคยอยู่รวมกัน มันไม่เคยเข้ากันได้

คล้าย... น้ำกับน้ำมัน

เมื่อนำมาเทรวมกัน..ก็ไม่มีทางกลืนกินเป็นเนื้อเดียว

แต่... มันกลับเป็นของคู่กัน

เมื่อความรักจากไปอย่างไม่ดีนัก

ครั้งหนึ่ง "เคยรัก" รักที่เขาเป็นเขาในแบบที่เราอยากให้เป็น

ครั้งนี้ "แค้น" เพราะเกลียดที่เขากลับมาเป็นตัวของตัวเอง แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา

อย่างที่เขาว่ากันว่า "ทั้งรักทั้งแค้น" นั่นเอง

คิดถึงสิ่งที่เขาเคยเป็น...นั่นรัก

คิดถึงสิ่งที่เป็นอยู่...ก็เกลียด

สลับไปสลับมาจนเป็นความสับสน

แต่... ความรักที่มี.. มันก็คงอยู่ที่เดิมของมัน

อยู่ในแก้วน้ำใสอย่างสงบนิ่ง

แล้วความแค้นที่เกิดจากความเกลียดก็ถูกเทเติมเต็ม

จนทับถมความรักที่มีอยู่...

เป็นของคู่กัน

เพื่อรอ..

วันนึงเราจะกลับมาคิดถึงมันอีก

วันนั้นอาจเป็นวันที่ความรักกับความแค้น

กลายเป็นตะกอน...อยู่ก้นแก้วแล้วก็เป็นได้

อย่าทำลายรักของคุณด้วยคำว่า เบื่อ


หลังจากหมดช่วงข้าวใหม่ปลามัน

คู่แต่งงานส่วนใหญ่ มักจะให้ความสนใจ ในเรื่องการสร้างครอบครัวเป็นหลัก ยิ่งถ้าอยู่ในฐานะคุณแม่บ้านด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งแล้วใหญ่ค่ะ เพราะต้องรับบทหนักทั้งงานราษฎร์งานหลวง สุดท้ายก็ไม่เหลือ เวลาส่วนตัวให้ตัวเองได้หายใจหายคอ หรือเอาอกเอาใจคนรักอย่างที่เคยทำ

ของแบบเนี้ยนะ ยิ่งนานก็ยิ่งชิน

ยิ่งชินก็ทำให้เบื่อ และนี่แหละคือที่มาของโรคเบื่อ ที่จะทำให้คุณกลายเป็นแม่น้ำพริกถ้วยเก่า ของคุณสามีที่ยังรักชอบความตื่นเต้นในชีวิตอยู่ไปเสียฉิบ

ทำยังไงไม่ให้ "เบื่อ"

1. ความเชื่อใจกัน

ความเชื่อใจนี้ ถือเป็นการให้เกียรติ และการยอมรับในความต้องการที่แตกต่างของกันและกันหมายถึงทั้งคู่ต้องไม่โกหก หลอกลวงและจะไม่พูดหรือทำสิ่งใดที่ทำให้อีกคนต้องเสียใจ หรือเป็นการทำลายชีวิตคู่

2. การรักษาสัญญา

นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตแต่งงาน เมื่อคุณได้ให้สัญญาต่อกัน สัญญานั้น เปรียบเสมือนเกราะป้องกัน ไม่มีสิ่งใดมาทำลาย ความรักของคุณได้ "จะรักคุณไม่ว่ายามเจ็บหรือยามสบาย จะรักคุณจนกว่าชีวิต จะหาไม่" คำสัญญานี้ จะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายจาก กันไปเท่านั้น

การรักษาคำมั่นสัญญา นอกจากจะช่วยให้คุณทั้งสอง สามารถ ผจญกับ อุปสรรคต่างๆ จนไปถึงเป้าหมายสูงสุดได้แล้ว มันยัง ช่วยให้คุณดิ่งลงสู่ ก้นเหวแห่งความทุกข์..เพราะคุณ ผิดคำ สัญญานั้น

3. มีทักษะความชำนาญ

ชีวิตแต่งงาน เป็นการที่คนทั้งสอง ตกลงว่าจะอยู่ด้วยกัน ไปตลอดชีวิต ซึ่งต้องอาศัยการทำความเข้าใจกันมากเป็นพิเศษ คุณต้องสามารถ แสดงออกว่า ต้องการอะไร รู้จักรับฟังเหตุผล ของอีกฝ่าย สามารถ ตัดสินใจ ในเรื่องต่างๆ ได้ดี สามารถไกล่ เกลี่ยต่อรองได้ แก้ปัญหาข้อขัดแย้งได้ ให้ความสนใจที่จะ พูดคุยกัน

และแน่นอน คุณจำเป็นต้องรู้ว่าจะทำมาหากินอะไร และรู้วิธีทำอาหาร วิธีดูแลบ้านช่องให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และสำคัญที่สุดวิธีการเป็นพ่อเป็นแม่คนที่ดี เขาทำกันอย่างไร

4. การเอาใจใส่ดูแล

วิธีทะนุถนอมให้ชีวิตคู่ยืนยาวนั้น คุณต้องรู้จักวิธี เอาอกเอาใจกันบ้าง บางคู่แค่มองตา ก็รู้ว่าต้องการอะไร และจะทำแต่สิ่งที่เขาชอบและจะไม่ทำอะไรที่เขาไม่ชอบให้ขุ่นเคืองใจ ซึ่งจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกมีความสุขเหลือเกิน ที่ได้คุณเป็นคู่ชีวิต

5. การเอาใจเขามาใส่ใจเรา

"จงทำกับคนอื่นเหมือนกับ ที่อยากให้คนอื่นทำกับคุณ" หมายความว่า การจะทำสิ่งใดก็ตาม ให้คุณคิดก่อนว่าเมื่อทำแล้วจะทำให้เกิดผลดีผลเสียกับใครหรือเปล่า ถ้าไม่ดีก็อย่าทำเพราะ คุณคงไม่อยากให้ใครมาทำแบบนั้นกับคุณเหมือนกัน

วิธีนี้นอกจาก จะช่วยป้องกันไม่ให้คุณทำอะไรที่จะทำร้ายจิตใจคนที่คุณรักแล้วยังเป็นเหมือนตาข่ายที่จะช่วยกลั่นกรองให้คุณทำหน้าที่สามีหรือภรรยาที่ดี ได้สำเร็จอีกด้วย

6. ความเพียร

จะมีประโยชน์อะไร ถ้าคุณเป็นคนที่เชื่อใจได้ รักษาสัญญา มีความรู้ มีทักษะ และรู้วิธีดูแล เอาใจใส่ แต่ไม่ได้ใช้มัน การที่ชีวิตคู่จะ อยู่ดีมีสุขได้ คุณต้องใช้ ความพยายามในทุกๆ ด้าน ตลอดทั้งชีวิตของคุณ ทีเดียว

7. การคาดหวัง

เหตุผลอย่างหนึ่ง ที่ทำให้คู่สามีภรรยารู้สึกว่าชีวิตแต่งงานของตัวเองล้มเหลว เมื่อพบว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ตั้งความหวังกับ ตัวเองไว้สูงมาก เป็นเรื่องปกติที่ คนเราจะวาดวิมานในอากาศ ถึงความสุขีสุโข กับชีวิตคู่ โดยคาดหวังว่า คู่ของตัวจะต้องเลิศเลอเพอร์เฟค เป็นเพื่อนคู่คิดที่ดี เป็นตู้ ATM ให้กดได้ตลอดเวลา และที่สำคัญ มีความช่ำชองที่สุด กับเรื่องบนเตียง

เฮ้ย.. ดูท่าความ ฝัน คงไม่มีทางเป็นจริงได้!

เพราะเรื่องจริงกับ ความฝัน มันช่างห่างไกลกันเหลือเกิน แน่นอนที่คุณจะต้องพบกับความผิดหวังครั้งใหญ่ ต้องเผชิญกับความล้มเหลว ความเสียใจ แต่เชื่อเถอะ ในที่สุด คุณจะค่อยๆ ยอมรับความจริงได้เอง

รักหมดอายุจะรู้ได้ไง


ถ้าเมื่อไร คนรักของเราเริ่มแสดงอาการอย่างนี้ ให้เตรียมใจไว้ได้เลย

ไม่สนใจ เขาขาดการติดต่อ ไม่โทรหา เราโทรไปก็ไม่รับ นัดมาเจอก็ไม่ว่าง โอกาสสำคัญอะไรก็ลืมหมด ไม่รัก เจอกันทีไรก็ทำท่าเซ็ง เย็นชาใส่ ทำอะไรให้ก็ไม่ถูกใจ พอเอ่ยปากถามก็ทำรำคาญ โมโห เสียงดังกลบเกลื่อน

ไม่เข้าใจ ถ้ารู้สึกว่า

เราสองคนต่างกันมาก คิดอะไร มองอะไรก็ไม่เหมือนกัน ไม่มีอะไรเข้ากันได้สักอย่าง และอีกฝ่ายก็ไม่คิดจะปรับตัวด้วย พอนานๆ ไป ก็ยิ่งอึดอัด สักวันความรักก็อาจมาถึงทางตัน

ถ้าลองดูอาการสักระยะ

แล้วทุกอย่างยังเหมือนเดิม คงต้องทำใจ แต่จะตัดสินใจจบความสัมพันธ์หรือไม่ ก็ให้คิดให้ดีๆ ถ้ารักเขามาก ยังไม่อยากเสียเขาไป ก็อาจจะลองคุยกันดูว่าปัญหาเกิดจากอะไร ทั้งสองคนจะปรับตัวกันได้ไหม แต่ต้องจำไว้ว่า ความรักบังคับใจกันไม่ได้ ถ้าเขาไม่รัก ไม่สนใจเราแล้ว ยื้อกันไปก็ไม่มีความสุข ควรจะให้โอกาสตัวเองมีอิสระดีกว่า คิดเสียว่า เป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้เจอกับคนใหม่ๆ ซึ่งอาจจะเหมาะกับเรามากกว่าในอนาคต